นายวิเชียร สุขสร้อย เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และนายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม และคณะฯ ได้เดินทางเข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์คติชนวิทยา สถาบันทักษิณคดีศึกษา มหาวิทยาลัยทักษิณ ตำบลเกาะยอ จังหวัดสงขลา โดยมี ผศ.ดร.ธัญญา พันธ์ฤทธิ์ดำ รักษาการผู้อำนวยการสถาบันทักษิณคดีศึกษา คณะผู้บริหารและบุคคลากรสถาบันทักษิณคดีศึกษา มหาวิทยาลัยทักษิณ ให้การต้อนรับ

ในโอกาสนี้ ผศ.ดร.ธัญญา พันธ์ฤทธิ์ดำ รักษาการผู้อำนวยการสถาบันทึกษิณคดีศึกษา ได้ยื่นเสนอโครงการพลิกโฉมพิพิธภัณฑ์คติชนวิทยาเพื่อส่งเสริม Soft Power การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและเมืองมรดกโลก ภายใต้งบประมาณ   42,436,000   บาท เพื่อพัฒนาปรับปรุง 4 กิจกรรม หลัก คือ

1. กิจกรรมปรับปรุงห้องประชุมบ้านซูซูกิ เพื่อรองรับงานประชุมเครือข่ายเมืองมรดกโลกและงานทางด้านคติชนวิทยา                  
2. กิจกรรมปรับปรุงอาคารสารนิเทศ พื้นที่ให้บริการนักท่องเที่ยว                  
3. กิจกรรมปรับปรุงพิพิธภัณฑ์คติชนวิทยา                  
4. กิจกรรมปรับปรุงภูมิทัศน์และจุดชมวิวบริเวณลานประติมากรรมมโนราห์ และก่อสร้างอาคารลิฟต์โดยสารบริเวณอาคารพาไลพัฒนา

พิพิธภัณฑ์คติชนวิทยา สถาบันทักษิณคดีศึกษา  มหาวิทยาลัยทักษิณ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นมิวเซียมที่สำคัญของโลกลำดับที่ 361 ลำดับที่ 4 ของประเทศ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของภาคใต้ กลุ่มอาคารต่าง ๆ ของสถาบันทักษิณคดีศึกษา สร้างขึ้นเมื่อปี 2530 ปัจจุบันตั้งอยู่ที่บ้านอ่าวทราย หมู่ที่ 1 ตำบลเกาะยอ อำเภอเมืองสงขลา ทั้งนี้เพื่อให้มีอาคาร สถานที่และสิ่งเกื้อกูลอำนวยประโยชน์อื่น ๆ สอดคล้องกับภาระหน้าที่หลักของสถาบัน และสามารถพัฒนากิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง สมสมัยในอนาคต จัดแสดงข้อมูลประวัติศาสตร์ โบราณคดี  อันเป็นวิถีชีวิตของชาวภาคใต้ทั้งที่เป็นเอกลักษณ์สำคัญ ๆ  และเป็นอัตลักษณ์ของภาคใต้

อีกทั้งเพื่อให้นักท่องเที่ยว รู้จักและเข้าใจผู้คนในภาคใต้ได้ดียิ่งขึ้น ได้เห็นถึงความสำคัญต่อองค์ความรู้ที่เป็นมรดกภูมิปัญญาชาวภาคใต้ กำลังเป็นที่นิยมในระดับชาติและนานาชาติ และพร้อมที่จะยกระดับทุนทางวัฒนธรรมนี้ สู่การขับเคลื่อน Soft Power จากรากสู่โลก (Glocalization) ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม การศึกษา ผู้ประกอบการ และภาคีเครือข่าย

สำหรับโครงการพลิกโฉมพิพิธภัณฑ์คติชนวิทยาจะส่งเสริม Soft Power การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและเมืองมรดกโลกมีความจำเป็นเร่งด่วนในการช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ให้กับประชาชนชาวจังหวัดสงขลาและชุมชนลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ทำให้ประชาชนมีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ควบคู่ไปกับจะช่วยแก้ปัญหา อันนำมาซึ่งการพัฒนาประเทศอย่างมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนอย่างแท้จริงต่อไป