อุทยานวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยทักษิณ ดำเนินโครงการวิจัย “พรีเมียมพัทลุงโมเดล: การยกระดับคุณภาพเศรษฐกิจในปริมณฑลเลสาบ ด้วยห่วงโซ่คุณค่า ‘เขา ป่า นา เลสาบ’ ผ่านพลังเครือข่ายแบบมีส่วนร่วม” โดยได้รับทุนสนับสนุนจากกองทุน ววน. และหน่วยงงาน บพท. ปี 2568 มุ่งยกระดับเศรษฐกิจฐานรากจังหวัดพัทลุง ด้วยการต่อยอดทุนทางธรรมชาติและวัฒนธรรม สู่ผลิตภัณฑ์ บริการ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ–วัฒนธรรม ผ่านการบูรณาการองค์ความรู้และนวัตกรรม เพื่อสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนแก่ชุมชน 

วันที่ 3 ตุลาคม 2568 อุทยานวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยทักษิณ เปิดตัวโครงการ “โชว์ ชม ช้อป ครบเครื่องเรื่องควายเลน้อย” ภายใต้โครงการวิจัย “พรีเมียมพัทลุงโมเดล: การยกระดับคุณภาพเศรษฐกิจในปริมณฑลเลสาบ ด้วยห่วงโซ่คุณค่า ‘เขา ป่า นา เลสาบ’ ผ่านพลังเครือข่ายแบบมีส่วนร่วม” ณ ศูนย์ศิลปาชีพบ้านหัวป่าเขียว ตำบลทะเลน้อย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง โดยได้รับเกียรติจาก นายธราวุธ ช่วยเกิด รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เป็นประธานเปิดงาน และ รองศาสตราจารย์ ดร.สมัคร แก้วสุกแสง รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยทักษิณ กล่าวรายงาน มีหัวหน้าส่วนราชการ ภาคีเครือข่าย เกษตรกรผู้เลี้ยงควายเลน้อย และประชาชนเข้าร่วมอย่างคับคั่ง

โครงการดังกล่าว มีเป้าหมายเพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากของจังหวัดพัทลุง โดยใช้ทุนทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่มีอยู่ มาพัฒนาและต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ บริการ และกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ–วัฒนธรรม ผ่านการบูรณาการองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมของมหาวิทยาลัยทักษิณ เพื่อสร้างเศรษฐกิจฐานรากที่เข้มแข็งและยั่งยืน สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ภายใต้หลักการ “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”

รศ.ดร.สมัคร แก้วสุกแสง รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยทักษิณ กล่าวว่า โครงการวิจัย “พรีเมียมพัทลุงโมเดลฯ” เป็นตัวอย่างโครงการวิจัยที่สอดคล้องกับแนวคิดของ “มหาวิทยาลัยจากรากสู่โลก” (The University of Glocalization) ที่มุ่งยกระดับฐานทุนทรัพยากรของ “ควายเลน้อย” ให้มีมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการคุณภาพสูงที่แตกต่างและแข่งขันได้ในตลาด โดยสถานการณ์ปัจจุบันผู้เลี้ยงควายเลน้อยยังเผชิญปัญหาหลักอยู่ 3 ประการ คือ ข้อจำกัดด้านตลาดที่ยังแคบเพียงในท้องถิ่น ข้อจำกัดด้านพื้นที่เลี้ยงที่อยู่ในเขตอุทยานทำให้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานได้ยาก และปัญหาราคาควายที่ไม่สะท้อนคุณค่าแท้จริง ส่งผลให้ผู้เลี้ยงไม่ได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า 

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภพเอกอัคร อินทรโม รองผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยทักษิณ หัวหน้าโครงการวิจัย อธิบายเพิ่มเติมว่า โครงการนี้ใช้กระบวนการ วิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory Action Research) ทำงานร่วมกับเกษตรกร ผู้ประกอบการ และเครือข่ายท้องถิ่น เพื่อพัฒนานวัตกรรมและสร้างตลาดใหม่ โดยหวังให้ควายเลน้อยไม่เพียงเป็นสัญลักษณ์วัฒนธรรม แต่ยังเป็นพลังในการสร้างเศรษฐกิจฐานรากที่มั่นคงและยั่งยืน พร้อมเป็นเวทีเชื่อมโยงความร่วมมือทุกภาคส่วนในการพัฒนาจังหวัดพัทลุงอย่างเป็นระบบ

กิจกรรมสำคัญภายในงานที่น่าสนใจ:
     - พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างมหาวิทยาลัยทักษิณกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย 13 หน่วยงาน และผู้ประกอบการชุมชน 2 ราย ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดพัทลุง สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพัทลุง สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพัทลุง สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดพัทลุง มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ พัฒนาชีวิตชนบท สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดพัทลุง เทศบาลตำบลทะเลน้อย เทศบาลตำบลพนางตุง สำนักงานพาณิชย์จังหวัดพัทลุง กองพันทหารช่างที่ 401 กองพลพัฒนา 4 หอการค้าจังหวัดพัทลุง บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีพัทลุง (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด นางโสภา ทองเกลี้ยง  ผู้ประกอบการ LE นายพรประเสิรฐ์ เกื่อคราม ผู้ประกอบการ LE
     - นิทรรศการและตลาดชุมชน แสดงผลงานและผลิตภัณฑ์จากเครือข่ายเกษตรกรและผู้ประกอบการ พร้อมกิจกรรมเวิร์กช็อป การสอนทำอาหาร และงานหัตถกรรมจากวัตถุดิบท้องถิ่น   
     - เสวนาทางวิชาการ หัวข้อ “เสียงควาย เสียงคน ร่วมผสานความยั่งยืน จากรากสู่โลก : การเลี้ยงควายปลักและระบบนิเวศในพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อย มรดกทางการเกษตรโลกแห่งแรกของประเทศไทย
     - การสาธิตวิถีเกษตรกรรมดั้งเดิม เช่น การแสดงควายไถนา ควายเทียมเกวียน และกิจกรรมขี่ควายเลน้อย เพื่อสื่อสารวิถีชีวิตและวัฒนธรรมควายทะเลน้อยให้ผู้เข้าร่วมได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด

การจัดงานครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการเปิดตัวโครงการ “โชว์ ชม ช้อป ครบเครื่องเรื่องควายเลน้อย” แต่ยังเป็นเวทีเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคธุรกิจ และชุมชน สู่การสร้างเศรษฐกิจฐานรากที่มั่นคงและยั่งยืน พร้อมทั้งสะท้อนบทบาทของมหาวิทยาลัยทักษิณในฐานะ “มหาวิทยาลัยจากรากสู่โลก” (The University of Glocalization) ที่ใช้ความรู้และนวัตกรรมเชื่อมโยงการพัฒนาท้องถิ่นสู่ระดับสากลอย่างแท้จริง

-------------------------------------------------------------------

ข่าว : งานสื่อสารองค์กร สำนักงานมหาวิทยาลัย